Contents
บ้านโมเดิร์นเขตร้อน

บ้านโมเดิร์นเขตร้อน เจ้าของบ้านยุคใหม่ๆ ไม่ได้มองบ้านเป็นเพียงที่พักอาศัยหลบจากสภาพอากาศภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ชีวิตและความทรงจำที่อยากจะให้ใช้งานได้นานๆ และเพิ่มความเชื่อมต่อกับธรรมชาติมากขึ้น ทำให้การใช้ชีวิตทุก ๆ วันเต็ไปด้วยชีวิตชีวา บ้านหลังนี้ในเวียดนามก็เป็นหลังหนึ่งที่สถาปนิกใส่มุมมองการออกแบบและความต้องการของเจ้าของบ้าน ที่ต้องการบ้านที่ร่มรื่น มีแสง ต้นไม้ และลม ออกมาเป็นบ้านโมเดิร์นทรอปิคอลที่เส้นสายเรียบๆ และให้ความสำคัญกับต้นไม้ที่ปกคลุมทั้งบริเวณเท่าๆ กับฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ ในบ้าน
TA house เป็นบ้านขนาด 382 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม โจทย์หลักไม่เพียงแต่ใช้งานสะดวก ปลอดภัย ยังต้องการให้บ้านได้รับแสงในปริมาณที่พอดี เปิดช่องทางรับลมระบายอากาศ ไม่ขาดต้นไม้ ด้วยความต้องการนี้ สถาปนิกจึงออกแบบบ้านในสไตล์โมเดิร์นทรอปคอล ที่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากบริบททางธรรมชาติ โดยได้จัดให้มีพื้นที่สีเขียวรอบๆ บ้าน แล้วมีตัวกลางเป็นประตูหน้าต่างกระจกใส เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยภายในสามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้โดยตรง
บ้านโมเดิร์นสองชั้น

ระบบต้นไม้สีเขียวไม่ได้อยู่บนดินเท่านั้น แต่มีอยู่ตามจุดต่างๆ ของตัวบ้าน รวมถึงไม้เลื้อยบนหลังคาคอนกรีตที่ห้อยย้อยลงมาด้วย เราจึงเห็นบ้านเป็นเหมือนกระถางใบใหญ่ที่มีต้นไม้งอกเงยเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร นอกจากการจัดพื้นที่สีเขียวแล้ว สถาปนิกยังออกแบบรการปกป้องบ้านจากผลกระทบของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นชายคาคอนกรีต หลังคา ประตูหน้าต่างระแนงไม้ ส่วนตัวบ้านมีโครงสร้างเป็นระบบพื้นเรียบ (flat slab) ไม่มีคาน ให้ความรู้สึกเบาและสง่างาม
การจัดเรียงพื้นที่ภายในเป็นแบบ open plan เน้นให้ส่วนใช้สอยส่วนกลางเชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล พยายามลดผนังที่ไม่จำเป็นลงให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ความทึบของผนังเป็นอุปสรรคให้ใช้งานและทำให้บ้านดูแคบลง ภายในแยกออกจากสวนตามจุดต่างๆ ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ช่วยเบลอขอบเขตสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกสบาย อิสระ และใกล้ชิดธรรมชาติ

นอกจากช่องว่างในระนาบแนวนอนแล้ว สภาปนิกยังเจาะโถงสูงเชื่อมต่อบ้านขึ้นไปในแนวตั้ง เกิดช่องว่างที่เอื้อให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและไหลออกจากอาคารได้ดี และยังเพิ่มปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวที่สื่อสารกันได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางเหล่านี้ ปลายสุดของผนังข้างๆ ชุดครัวมีบันไดวนทำจากแผ่นเหล็กสีขาว เติมจุดโฟกัสสายตาให้บ้าน เพิ่มช่องทางขึ้นสู่ชั้นสองอย่างน่าสนุก
ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาจากผนังกระจกทุกด้าน ทำให้โซนนี้เหมือนไร้ขอบเขตทางสายตา ในช่วงเวลาที่ต้องการกรองแสงหรือปิดเป็นส่วนตัวก็หมุนม่านมูลี่บังได้ ซึ่งจะดีกว่าการติดผ้าม่าน เพราะยังสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้บ้านสองชั้น

ห้องนอนได้รับการจัดตำแหน่งให้ตั้งอยู่สุดส่วนท้ายไซต์ ที่ค่อนข้างสงบไม่มีเสียงรถรารบกวนการพักผ่อน ห้องหันไปทางพื้นที่สีเขียวใจกลางบ้าน แยกจากภายนอกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนและม่านผ้าซึ่งสามารถเปิดออกเพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว
บนชั้นสองแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งจัดเป็นสวนกระถาง ปูพื้นด้วยไม้ระแนง ทำให้เห็นด้านล่างได้ สถาปนิกติดตั้งบันไดวนให้สามารถขึ้นไปสู่ชั้นดาดฟ้าได้ โดยมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกั้นไว้อีกชั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้อสู่อาศัย

การปลูกไม้เลื้อยและพืชรากอากาศหน้าบ้านนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มร่มเงาให้กับบ้าน เพิ่มความสดชื่น ลดทอนความแข็งกระด้างของอาคาร นอกจากนี้ยังช่วยกรองฝุ่น ควัน ที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ในระดับหนึ่ง แต่การปลูกไม้เลื้อยที่รากยึดเกาะแน่น เช่น ต้นตีนตุ๊กแก ยิ่งปลูกนานจะเกาะแน่น เมื่อต้องการรื้อออก จะเห็นว่าสีผนังลอกล่อนมีรอยรากไม่สวยงาม และอาจจะทำให้ผนังชื้นในกรณีที่ต้องรดน้ำ จึงต้องคำนึงถึงการจัดการเรื่องวิธีระบายน้ำและกันซึมด้วย บ้านสองชั้น
บ้านแนวโมเดิร์น ทรอปิคอล ถึงฮิตสุดๆ
1. บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ และเหมาะกับอากาศประเทศไทย
เหตุผลแรกที่คนรักบ้านในไทยอย่างเราควรจะแต่งบ้านสไตล์ Modern Tropical ก็เพราะมันเหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย ซึ่งบ้านสไตล์นี้จะผสานพื้นที่อยู่อาศัยและธรรมชาติแวดล้อมให้ไปด้วยกันอย่างลงตัว พื้นที่จะเปิดโล่งรับลม มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อึดอัด เหนียวเหนอะหนะ ถ้าแต่งเก๋ ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ๆ ธรรมชาติ ๆ ก็จะยิ่งทำให้บ้านกลายเป็นเหมือนบ้านตากอากาศชั้นดี ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
นอกจากนี้ การแต่งบ้าน Modern Tropical ก็จะเน้นไปที่ความใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่งโดยนำมาประดับในที่ที่ถูกที่ควร โดยควรเป็นต้นไม้ที่ไม่สูงใหญ่มาก และเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมากเพื่อจะได้เจริญเติบโตได้ดีแม้อยู่ในบ้าน
2. พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เพราะเน้นการสร้างสเปซให้โล่ง โปร่ง สบายตา
จุดเด่นที่สุดของบ้าน Modern Tropical คือการตกแต่งบ้านโดยเหลือพื้นที่ใช้สอยให้มากเข้าไว้ ซึ่งเมื่อเหลือสเปซเยอะ บ้านก็จะดูโล่งโปร่ง ไม่อึดอัด อยู่แล้วก็จะรู้สึกสบายใจ ถ้าแต่งสักมุมของห้องนั่งเล่นให้มีช่องทางให้ลมพัดผ่านเพื่อระบายความร้อน ใช้เป็นมุมสำหรับนั่งชิล อ่านหนังสือ ฟังเพลง กินขนม ในวันหยุด ก็จะยิ่งสบายไปใหญ่ ทว่าการแต่งสไตล์นี้จำเป็นต้องอาศัยดีไซน์เนอร์ที่เข้าใจการเล่นกับสเปซ และเข้าใจบริบทของสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
3. ได้สนุกกับการแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
เพราะอีกจุดเด่นของบ้านสไตล์ Modern Tropical คือการแต่งโดยอ้างอิงจากศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ ผสมผสานกับดีไซน์สมัยใหม่ และบ้านก็คือพื้นที่แห่งไอเดียและความครีเอทีฟ คุณสามารถเลือกหยิบของชิ้นโน้น เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้มาแต่งในบ้านสไตล์ Modern Tropical ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งหาของมาแต่งเพิ่ม หาต้นไม้มาประดับเพิ่ม (แต่ก็ควรคำนึงถึงเรื่องสำคัญ…เหลือสเปซให้บ้านด้วย!)
เฟอร์นิเจอร์ สีของผนัง วอลเปเปอร์ ก็ควรแต่งด้วยของที่มีสีในโทนเดียวกัน ไม่ฉูดฉาดหวานแหวว เพื่อให้ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา เฟอร์นิเจอร์ก็ควรเรียบง่าย ทั้งโต๊ะ โซฟา เก้าอี้ จนของตกแต่งอื่นๆ โดยอาจเลือกที่ยิ่งเสริมความเป็นธรรมชาติให้บ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์หวาย เครื่องปั้นดินเผา เซรามิกฝีมือคนพื้นเมือง